วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เงินปากผีเหล่านั้นจะทำให้ผู้ตายได้มีโอกาสนำไปใช้ในชาติภพหน้า

งินปากผี”!!...คำๆ นเชอว่าคุณผู้อ่านทุกท่านคงรู้จัก 0 กันเป็นอย่างดี รวมถึงอาจทำให้คนขวัญอ่อนบางราย ถึงกับชะงักกึก ขนลุกวาบ หากมีใครเอ่ยคำๆ นี้ให้ได้ยิน...
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเงินปากผีนั้น หมายถึงเงิน ทอง รวมถึงสิ่งของเครื่องประดับมีค่าต่างๆ ที่ญาติของผู้ตายมักจะนำ มาใส่ไว้ในปากของศพ ด้วยความเชื่อว่าเงินทองหรือสิ่งของมีค่า เหล่านั้นจะทำให้ผู้ตายได้มีโอกาสนำไปใช้ในชาติภพหน้า หรือใน โลกหลังความตาย
เป็นการกระทำที่ส่อแสดงให้เห็นถึงเจตนาดีที่เกิดขึ้นจาก ความรัก ความอาลัย และความปรารถนาดีต่อผู้ตายเป็นครั้ง สุดท้าย ก่อนทำพิธีฌาปนกิจศพของบุคคลอันเป็นที่รักเหล่านั้น
เรื่องราวอาถรรพณ์เกี่ยวกับเงินปากผีมีให้ได้ยินกันมาเนิ่น นาน โดยเฉพาะกับความเฮี้ยนของดวงวิญญาณผู้ตายที่มักติดตามมาหลอกหลอน เพื่อทวงคืนเอากับผู้บังอาจลักขโมยเงินของตน ไปใช้ ดูเหมือนจะสร้างความหวาดสะพรึงได้ทุกครั้งเมื่อมีการ กล่าวถึง
เคยมีเรื่องเล่าสะพรึงขวัญมากมายเกี่ยวกับอาถรรพณ์อันเกิด จากเงินปากผี และแต่ละเรื่องที่ถูกนำมาเผยแพร่ก็ล้วนแล้วแต่ น่าขนพองสยองขวัญด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะมีข้อเท็จจริงเป็น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการนำเงินปากผีไปใช้ ก็ย่อมหมายถึงการ ท้าทายต่อดวงวิญญาณผู้ตาย ซึ่งถือว่าเป็นการ “ลองดี'’ แบบสุดๆ สำหรับคนไทยที่ยังเชื่อถือในเรื่องเกี่ยวกับภูตผีวิญญาณอยู่
เงินปากผีจึงกลายเป็นเงินต้องห้าม เพราะเป็นเงินของผี ไม่ใช่เงินของคน!!
ด้วยเหตุนี้ หากมีใครบางคนกล้านำเอาเงินปากผีมาไว้ที่บ้าน จึงย่อมต้องกระแสความฮือฮาได้ไม่น้อย...
เมื่อไม่นานมานี้ได้ปรากฏข่าวที่ทำให้หลายคนต้องถึงกับตก ตะลึง เนื่องจากมีการค้นพบบุคคลผู้หนึ่งซึ่งนิยมนำเงินปากผีมา เก็บไว้ในบ้านของตน เป็นการสวนกระแสกับความเชื่อในเรื่อง อาถรรพณ์ของเงินปากผี ที่มักสร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงได้ ทุกครั้งโดยสิ้นเชิง
บุคคลที่อาจหาญนำเอาเงินปากผีมาเก็บสะสมไว้ที่บ้านรายนี้ คือนายไหล ตะเพียนทอง ผู้มีอาชีพเป็นสัปเหร่อ ซึ่งต้องคลุกคลี ครํ่าหวอดอยู่กับศพคนตายมาเกือบตลอดชีวิตของเขา
ที่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 9 ตำบลปากกราน อำเภอพระนครศรี- อยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านของคุณลุงไหล ตะเพียนทอง อายุ 72 ปี สัปเหร่อคนดังประจำชุมชน
เมื่อเดินทางไปถึงก็ได้พบว่า ที่ฝาบ้านไม้ชั้นบนตรงระเบียง 
หน้าบ้านขนาดสูง 2.5 เมตร ยาว 6 เมตร มีธนบัตรไทยหลาย
ชนิดทั้งใบละหนึ่งร้อยบาท,ห้าสิบบาทและยื่สิบบาท จำนวนมาก
ห่อด้วยพลาสติกอย่างดี ถูกตีตะปูยึดมุมสี่ด้านกับฝาผนังจนแน่น เต็มพื้นที่ฝาผนัง รวมแล้วเกือบ 20,000 บาท
เงินทั้งหมดที่คุณลุงไหลน่ามาติดประดับไว้ที่ฝาบ้านด้งกล่าว นี้ เป็นเงินปากผีที่คุณลุงไหลเอามาจากศพคนตายจำนวนนับร้อยๆ ศพ ซึ่งคุณลุงไหลทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อเผาศพให้
คุณลุงไหลผู้สร้างกระแสความฮือฮาเกี่ยวกับการนำเงินปาก ผีมาเก็บสะสมไว้ที่บ้านกล่าวว่า ตนเองทำหน้าที่สัปเหร่อมานาน แล้วตั้งแต่อายุ 27 ปี จนปัจจุบัน 72 ปี โดยจะทำหน้าทีสัปเหร่อ ทำศพตามวัดต่างๆ ในชุมชนและย่านใกล้เคียง ประกอบด้วยวัด สำเภาล่ม วัดขุนพรหม วัดพุทไธสวรรค์ วัดกลาง วัดสนามไชย วัดโคกปากกราน
เมื่อญาติคนตายมาบอกก็จะไปช่วยทำศพให้ทุกครั้ง จนเป็น ที่รู้จักของซาวบ้านในชุมชนดี และการนำเงินปากผีหรือเงินจากปาก ศพมาเก็บสะสมไว้ที่บ้านดังกล่าว ก็ไม่ได้หมายความว่าตนเองจะ แอบไปสักขโมยเอาของศพคนตายมาใช้ หากแต่ทุกครั้งจะต้องได้ รับอนุญาตจากญาติผู้ตายหรือเจ้าของศพเสียก่อน
จากนั้นคุณลุงไหลได้เปิดเผยถึงวิธีการนำเงินปากผีมาเก็บ สะสมไว้ว่า ก่อนเผาศพทุกศพเมื่อเปิดฝาโลงบนเมรุให้ญาติดูหน้า ศพเป็นครั้งสุดท้ายและเอานํ้ามะพร้าวล้างหน้าศพแล้ว ตนเองจะ บอกญาติคนตายขอเงินในปากผีและเงินที่ญาติใส่ไว้ในโลงศพ เพื่อ นำมายังบ้านพักของตนเอง เพราะไม่อยากให้เงินทองหรือของมีค่า
เหล่านั้นถูกเผาไหม้ไปโดยเปล่าประโยชน์
ทีสำคัญก็คือคุณลุงไหลคิดว่า เงินทุกบาททุกสตางค์เหล่า นั้นมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำไปเผาเพราะไม่ก่อประโยชน์ใดๆ ย สู้ นำมาเก็บรวบรวมไว้ทำบุญจะดีกว่า
เมื่อได้เงินมาหากเป็นเหรียญเก็บใส่กระป๋อง แต่ส่วนใหญ่ เป็นธนบัตร คุณลุงก็จะนำมาหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี และนำตะปู มาตอกที่มุมธนบัตรยึดแน่นติดข้างฝา เรียงประดับประดาเป็น ระเบียบเรียบร้อยจนอัดแน่นเต็มฝาบ้านไปหมด
นอกจากนั้นสัปเหร่อผู้นิยมสะสมเงินปากผียังเปิดเผยอีกว่า เงินปากผีที่ได้มาจากศพแต่ละศพจะมีจำนวนเงินไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ตาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นธนบัตรชนิดหนึ่ง ร้อย ห้าสิบ และยี่สิบบาท และเท่าที่เคยได้มาสูงสุดบางศพได้ เป็นหลักพันเลยก็มี
ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา ฝาผนังบ้านของคุณลุงไหลจะเต็ม แน่นไปด้วยธนบัตรที่ได้มาจากปากศพและในโลงศพ เมื่อน่ามาติด ไว้จนกระทั่งเต็มพื้นที่จนไม่มีที่ติดแล้ว คุณลุงไหลก็จะแกะออก แล้วนำไปทำบุญตามวัดต่างๆ และทำเช่นนี้มาหลายรอบแล้ว
“พอเงินเต็มฝาผมก็จะแกะเงินออกมาและรวบรวมไปทำบุญ ที่วัด ชื้อผ้าประดับเมรุบ้าง ชื้ออิฐบ้าง ชื้อปูนบ้าง ฯลฯ ผมจะ นำเงินปากผีทั้งหมดไปชื้อของถวายวัดทั้งหมด และจากนั้นก็จะ อุทิศส่วนกุศลให้คนตายเจ้าของเงินด้วย

“ผมไม่เคยนำเงินปากผีมาใช้ และเงินทองค่าแรงที่ได้จากการ เป็นสัปเหร่อ ก็นำสมทบทุนทำบุญกับเงินปากผีด้วยเช่นกัน,'คุณลุงไหล ตะเพียนทอง สัปเหร่อผู้อาจหาญนำเอาเงิน ปากผีมาเก็บไว้ที่บ้านกล่าว พร้อมกับเล่าว่า ตนเองทำอย่างนี้มา นานแล้ว ลูกหลานก็ไม่ได้ว่าอะไร
ทุกวันนี้คุณลุงไหลอยู่กับภรรยา ชื่อนางเล็กเพียง 2 คนเท่า นั้น ส่วนลูกๆ มีครอบครัวทำงานดีทั้งหมด ลูกหลานส่งเสียเลยง ดูตนเป็นอย่างดี จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเอาเงินปากผีไปใช้จ่ายอะไร “เงินปากผีจำนวนมากที่ผมเอามาติดข้างฝาหน้าบ้านทั้งหมดนี้ คุณก็ดูเอาเองสิว่าผมไม่ได้เอาไปเก็บซุกช่อนไว้ที่ไหน แต่ก็แปลก เพราะยังไม่เห็นมีใครกล้าเข้ามาขโมย สงสัยมันจะกลัว
“แต่สำหรับผมและลูกหลานไม่มีใครกลัว และไม่เคยมีอะไร เกิดขึ้นด้วย เพราะเราทำด้วยเจตนาดีและไม่ไดีไปลักขโมยเขามา ผมเชื่อว่าดวงวิญญาณของเจ้าของเงินเหล่านั้นคงเข้าใจดี โดยก่อน นอนทุกวันผมจะสวดมนต์และทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ตาย เสมอ”
คุณลุงไหลเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มขันๆ เมื่อถูกถามว่าเคยพบ เจอเรื่องราวเกี่ยวกับอาถรรพณ์เงินปากผีบ้างหรือไม,?...
ส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันต่างก็พูดในทำนองเดียวกันว่าไม่ รู้สึกกลัวอะไร ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าคุณลุงไหลเป็นคนอย่างไร และ ต่างก็เชื่อว่าคุณลุงไหลทำไปด้วยเจตนาบริสุทธิ้ จึงไม่มีใครมองว่า สัปเหร่อผู้นี้ทำในสิ่งที่ไม่ดีงาม ตรงกันข้าม...
ทุกคนต่างให้ความเคารพนับถือในตัวของคุณลุง และเห็น ด้วยกับเจตนาอันบริสุทธิของคุณลุงไหล ตะเพียนทอง สัปเหร่อ คนตังผู้นี้อยู่เสมอ.. •

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น