วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เมืองไทยเป็นเมืองพุทธความศรัทธาแรงกล้า

เมืองไทยเป็นเมืองพุทธความศรัทธาแรงกล้าที่ผู้คนมื ต่อพระพุทธศาสนานับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน จึงทำ ให้เกิดหลายสิงหลายอย่างลื่อสะท้อนให้เห็นภาพรวมแห่งความ เลื่อมใส กลายเป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่โดดเด่นเสมอมา...
ส่วนหนึ่งของการแสดงออกให้เห็นถึงความศรัทธาใน พุทธศาสนาก็คือ จำนวนของวัดที่มีอยู่มากมายในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และนอกจากวัดแล้ว การร่วมแรงร่วมใจกันสร้าง ศาสนวัตถุในรูปแบบต่างๆ ก็คือส่วนสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงศรัทธา อันยิ่งใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนชาวไทย ต่างร่วมกันทุ่มเทเพื่อจรรโลง พุทธศาสนาเอาไว้สืบเนื่องต่อกันมาเนิ่นนาน
ด้วยเหตุนี้ วัดจึงเป็นแหล่งรวมจิตใจของคนในท้องถิ่น อีก ทั้งยังเป็นแหล่งรวมความรู้ ความน่าสนใจในลักษณะต่างๆ มากมาย และไม่เว้นแม้แต่กระทั่งความแปลก ของแปลก ซึ่งเกิดจากผลพวงของ'พลังศรัทธาที่ชาวบ้าน,ต่างร่วม'ใ'จกันสร้'างสรร1ค์ฃึ้'นให้กับวัด ในท้องถิ่นของตดังเช่นเรื่องราวขององค์พระปฏิมากร1ซึงได้รั'นการขนานนาม ว่า “หลวงพ่อแสนเหรียญ” ทีจะนำมาเสนอดังต่อไปนี.หลวงพ่อแสนเหรียญ คือพระพุทธรูปที่มีความแปลกแตก ต่างจากพระพุทธรูปองค์อื่นๆ เนื่องจากตลอดทั้งองค์พระประดับ ประดาด้วยสตางค์ชนิดเหรียญจำนวนหลายแสนเหรียญ จนกลาย เป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากสตางค์เพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทยด้วยแรงปัญญาที่เป็นบ่อเกิดแห่งความรู้ พระครูปลัดเพลิน เตชธัมโม เจ้าอาวาสวัดลาดขาม จังหวัดกาญจนบุรี ท่านได้ร่วม กับญาติโยมและศิษยานุคืษย์ พร้อมทั้งสาธุชนที่ใจบุญทั่วไป สร้าง องค์พระปฏิมากรด้วยเงินตราชนิดเหรียญ มีตั้งแต่ยุคแรกถึงยุค ปัจจุบัน นามว่า “พระพุทธเบญจนวมงคลกาญจน์” หรือชาวบ้าน มักเรียกกันว่าหลวงพ่อแสนเหรียญหลวงพ่อแสนเหรียญเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ขนาดหน้า ตักกว้าง 59 นิ้ว สูง 87 นิ้ว จำนวนเหรียญที่ใช้ในการสร้าง เมื่อ นับถึงวันนี้ประมาณ 9 แสนเหรียญ ทำให้มีความงดงามตามแบบ ปฏิมากรรมและศิลปกรรมเป็นเลิศศิลปะการเรียบเรียงเงินตราชนิดเหรียญหลายยุคหลายสมัย ให้เป็นองค์พระปฏิมากรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อรวบรวมเงินตรา ชนิดเหรียญมาแล้ว ก็ต้องนำเหรียญมาบรรจงให้เป็นองค์พระ ปฏิมากร งานนี้ต้องมีฝึมีอและพรสวรรค์เป็นอันมากทุกตารางนิ้ววิจิตรตระการตาตั้งแต่ฐานถึงปริมณฑล โดย เฉพาะพระพักตร์อิ่มเอิบยิ้มแย้ม บ่งบอกถึงความเจริญของบ้านเมืองในยุคนั้น และองค์พระปฏิมากรที่กล่าวมานี้ มีสาธุชนทั่วไทยใน เขตพระศาสนาขององค์สัมมาส้มพุทธเจ้าและผู้ที่เลื่อมใสในคุณงาม ความดี เข้ามากราบนมัสการกันอย่างเนืองแน่น เป็นที่มาของคำว่า “หลวงพ่อแสนเหรียญ"
ขณะเดียวกัน ในเวลานี้ วัดลาดขาม กำลังดำเนินการก่อ สร้างมณฑปแก้วเจ็ดชั้นสูง 59 เมตร เพื่อประดิษฐานพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ชึ่งมีคณะศรัทธาจัดสร้างถวายให้วัดลาดขาม และองค์ หลวงพ่อแสนเหรียญ เป็นองค์ที่ 9 ในจำนวน 28 พระองค์นั้น อีกนัยหนึ่ง มีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เมื่อได้มากราบ นมัสการมีความรู้สึกเย็นกาย เย็นใจ และจิตใจเบิกบานในเชิง ปฏิบัติ การอธิษฐานเหมือนได้กราบนมัสการและได้อธิษฐาน กับเทพเจ้าแห่งโชคลาภ และเทพแห่งความมั่งคั่งมั่นคงรํ่ารวย ที่ประสิทธี้ประสาทไว้กับองค์ปฏิมากรที่สร้างด้วยเงินตรา เป็นที่ มาแห่งโชคลาภและความรํ่ารวย สมกับพระนามพระพุทธเบญจ- นวมงคลกาญจน์ หรือหลวงพ่อแสนเหรียญ
สำหรับวัดลาดขามนั้น แต่เดิมเป็นวัดร้าง สร้างประมาณ สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ตามที่กรมคํลปากรได้สำรวจ และ คำนวณไว้จากวัตถุโบราณและซากปรักหักพังของเจดีย์ โบสถ์เก่า พระพุทธรูปหินทรายสมัยเก่าที่หักชำรุด ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย อยู่ทั่วบริเวณวัด อันเป็นเพราะพิษของสงครามที่ผ่านมา
ตามคำเล่าขานกันมายาวนานว่า พม่ายกกองทัพเข้าตีกรุง ศรีอยุธยาโดยใช้เส้นทางด่านเจดีย์สามองค์ในสมัยนั้น ได้ตีเมือง ทองผาภูมิ (วัดดงสักลิ้นถิ่น) และเมืองท่ากระดาน เดินทางเข้า ช่องกระบอก ตีเมืองท่ากระดาน ชาวบ้านได้หนีขึ้นไปอยู่บนเขาส่วนหนึ่ง (หมู่บ้านหนองหอย) และเดินทางตามลำนํ้าแควน้อย โดยใช้แพเป็นพาหนะ เข้าตีกาญจนบุรีเก่าโดยยกทัพขึ้นมาที่บ้านเก่า ชาวบ้านได้ทิ้งถิ่นฐานลงมาอย่ที่กลอนโด ทัพพม่าได้ลัดเลาะและอีกส่วนหนึ่งปลอมตัวเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งรู้มาว่าคนไทย บางหมู่บ้านไม่ถูกกัน จึงใช้อุบายยุยงทำให้คนไทยแตกความ สามัคคี ทำให้ง่ายต่อการเข้าตีเมืองให้แตกเมื่อพม่าปิดกั้นแม่นํ้าสายบ้านทวนแล้ว ช้าง ม้า วัว ควาย อดนํ้าตายก็มากมาย พม่าตีมาถึงลาดขามซึ่งมืแต่เด็กกับคนแก่อยู่ ในบ้าน พม่าจึงฆ่าตายทั้งหมู่บ้าน และเผาหมู่บ้านทำลายวัดวา อารามเอาทรัพย์สินมืค่าไป วัดและบ้านลาดขามจึงร้างตั้งแต่นั้น เรื่อยมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2542 พระปลัดเพลิน เตชธัมโม ได้ธุดงค์มาพบซากปรักหักพัง จึงคิดที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์ไว้ให้ อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา เพื่อสืบทอดพระศาสนาและเป็นที่ลักการ- บชาสืบต่อไป จึงได้ปักกลดใต้ร่มไม้บริเวณวัดลาดขาม และ ลงมือบูรณะปฏิสังขรณ์ ด้วยแรงศรัทธาจากคนในตระกูล “พวง ปทุมานนท์,'คุณผู้อ่านที่ต้องการจะเดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อ แสนเหรียญ สามารถเดินทางไปไต้ทุกวัน ที่วัดลาดขาม ตำบล พนมทวน อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี.. •

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น